อยากเป็นช่างตัดผมต้องทำอย่างไร

อยากเป็นช่างตัดผมต้องทำอย่างไร

สภาพสังคมปัจจุบันเปลี่ยนไป ผู้คนให้ความสำคัญต่อความสวยความงามกันมากขึ้น อาชีพช่างตัดผมจึงเข้ามามีบทบาทในการสร้างบุคลิกภาพที่ดีให้ผู้คนได้มากขึ้น รวมทั้งธุรกิจร้านทำผมมีการขยายตัวมากขึ้นในทุกย่านต่างๆ ทำให้ความต้องการช่างตัดผมมีปริมาณมากขึ้นและเป็นอาชีพที่มีรายได้ดี สำหรับผู้ที่สนใจอยากเป็นช่างตัดผม จึงจำเป็นต้องรู้หลักสูตรการเรียนเพื่อเป็นเส้นทางไปสู่การเป็นช่างตัดผมมืออาชีพ ดังต่อไปนี้

  1. หลักสูตรเรียนฟรี ของศูนย์ฝึกอาชีพของภาครัฐ คือ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน และ ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน ในสังกัดกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน จะมีบริการให้กับประชาชนผู้สนใจที่ต้องการฝึกอาชีพช่างตัดผม สามารถสมัครอบรมหลักสูตรระยะสั้นฟรี โดยศูนย์ฝึกอาชีพของรัฐจะมีศูนย์ฝึกกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละจังหวัดจะมีหลักสูตรช่างตัดผมเปิดอบรมและรับสมัครไม่ตรงกัน สามารถเช็คได้ที่ https://archeep-center.blogspot.com/ หรือโทรเข้าไปสอบถามที่ศูนย์ฯโดยตรง โดยผู้สมัครจะต้องเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรจำนวน 160 ชั่วโมง แบ่งเป็น ภาคทฤษฎี 76 ชั่วโมง ภาคปฏิบัติ 84 ชั่วโมง ใช้เวลาเรียน 2 เดือน เรียนวันจันทร์ – ศุกร์ วิชาที่เปิดสอน จะมีให้เลือก 2 หลักสูตรคือ เสริมสวย ระดับ 1 และ ตัดผมสุภาพบุรุษ ระดับ 1 หลักสูตรวิชานี้จะมีการเรียนการสอนตั้งแต่พื้นฐานตัดผมจากที่ไม่เป็น เริ่มทรงนักเรียน รองทรงสูงกลางต่ำ ทรงมาตรฐานต่างๆ รวมถึงมารยาทในร้านตัดผม ไปจนถึงทรงผมที่ทันสมัยต่างๆ  

คุณสมบัติของผู้เรียน

  1. สัญชาติไทย ชาย – หญิง อายุ 14 ปีขึ้นไป
  2. สามารถอ่านออก – เขียนได้
  3. มีความประพฤติเรียบร้อย
  4. ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง หรือไม่เป็นโรคน่ารังเกียจ

หลักฐานในการสมัครเรียน

  • รูปถ่ายหน้าตรง 1 นิ้ว 2 ใบ
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ใบ

เอกสารหลักฐานการศึกษา

  • หลักฐานการประเมินผล
  • วุฒิบัตรออกโดยสถานศึกษา
  • ทะเบียนคุมวุฒิบัตร

ซึ่งผู้ที่เรียนจบสามารถนำวิชาความรู้ ไปประกอบอาชีพเลี้ยงตัวและครอบครัวได้อย่างแน่นอน

2. เรียนกับสถาบันเอกชน การเรียนตัดผมกับสถาบันที่มีชื่อเสียง ที่เปิดสอนโดยสถาบันเอกชน จะมีค่าใช้จ่ายในการเรียนค่อนข้างสูง โดยสถาบันแต่ละแห่งจะมีหลักสูตรแตกต่างกัน ผู้เรียนอาจเริ่มต้นจากหลักสูตร Beginner เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ไปจนถึงหลักสูตรเฉพาะด้านที่ต้องอาศัยประสบการณ์ความชำนาญของผู้สอน ข้อดีของการเรียนกับสถาบันเอกชนคือ การเรียนจะเป็นแบบเรียนตัวต่อตัว หรือเป็นกลุ่มเล็กๆ ทำให้สามารถดูแลผู้เรียนได้อย่างใกล้ชิด ผู้เรียนสามารถเลือกวัน เวลาในการเรียนได้เอง เทคนิคในการเรียนแต่ละสถาบันก็จะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของผู้สอน โดยหลักสูตรที่เปิดสอนทั่วไป มีดังนี้

  •  ความรู้เกี่ยวกับหนังศีรษะและเส้นผมของมนุษย์
  • รูปแบบทรงผมของผู้ชายและผู้หญิง
  • พื้นฐานความเข้าใจในการออกแบบทรงผม
  • จรรยาบรรณและพฤติกรรมที่เหมาะสมของช่างตัดผม
  • อุปกรณ์ เครื่องมือ สำหรับช่างตัดผม รวมถึงวิธีการบำรุงรักษาเครื่องมืออุปกรณ์
  • เทคนิคการตัดผม ซอยผม สไลด์ผมสั้นและยาว
  • หลักสูตรทำสีผม หลักสูตรยืด ดัด ดัดดิจิตอล หลักสูตรเกล้าผม

ราคาหลักสูตรมีตั้งแต่หลักพันไปจันถึงหลักหมื่น

อยากเป็นช่างตัดผมต้องทำอย่างไร